วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แนวทางการแก้ปัญหาดินเค็ม


ดินเค็ม
แนวทางการแก้ปัญหาดินเค็ม
การป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายดินเค็มเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากสาเหตุการเกิด ดำเนินการได้โดยวิธีการทางวิศวกรรม วิธีทางชีวิทยา และวิธีผสมผสานระหว่างทั้งสองวิธี

1. วิธีทางวิศวกรรม จะต้องมีการออกแบบพิจารณาเพื่อลดหรือตัดกระแสการไหลของน้ำใต้ดินให้อยู่ในสมดุลของธรรมชาติมากที่สุด ไม่ให้เพิ่มระดับน้ำใต้ดินเค็มในที่ลุ่ม

2. วิธีทางชีวิทยา โดยใช้วิธีการทางพืชเช่นการปลูกป่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายดินเค็ม มีการกำหนดพื้นที่รับน้ำที่จะปลูกป่า ปลูกไม้ยืนต้นหรือไม้โตเร็วมีรากลึก ใช้น้ำมากบนพื้นที่รับน้ำที่กำหนด เพื่อทำให้เกิดสมดุลการใช้น้ำและน้ำใต้ดินในพื้นที่ สามารถแก้ไขลดความเค็มของดินในที่ลุ่มที่เป็นพื้นที่ให้น้ำได้
3. วิธีผสมผสาน การแก้ไขลดระดับความเค็มดินลงให้สามารถปลูกพืชได้ โดยการใช้น้ำชะล้างเกลือจากดินและการปรับปรุงดิน ดินที่มีเกลืออยู่สามารถกำจัดออกไปได้โดยการชะล้างโดยน้ำ การให้น้ำสำหรับล้างดินมีทั้งแบบต่อเนื่องและแบบขังน้ำเป็นช่วงเวลา แบบต่อเนื่องใช้เวลาในการแก้ไขดินเค็มได้รวดเร็วกว่าแต่ต้องใช้ปริมาณน้ำมาก ส่วนแบบขังน้ำใช้เวลาในการแก้ไขดินเค็มช้ากว่า แต่ประหยัดน้ำ
การใช้พื้นที่ดินเค็มให้เกิดประโยชน์ตามสภาพที่เป็นอยู่ ไม่ปล่อยให้พื้นดินว่างเปล่า โดยการคลุมดินหรือมีการเพิ่มผลผลิตพืชโดยเปลี่ยนพืชเป็นพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสม เช่นพืชทนเค็ม พืชชอบเกลือ

 ส่วนการแก้ปัญหาดินเค็มที่กรมพัฒนาที่ดิน แนะนำให้เกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีปัญหานี้ คือ การปลูกต้นไม้โตเร็วบนพื้นที่รับน้ำเพื่อลดการแพร่กระจายของดินเค็มได้แก่ ยูคาลิปตัสและสะเดา ปลูกพืชทนเค็ม เช่น ต้นกระถินออสเตรเลียและหญ้าดิกซี่ ซึ่งเป็นพืชที่สามารถทนเค็มได้สูง ซึ่งต่อมาได้ส่งเสริมให้ปลูกหญ้าดิกซีร่วมกับต้นกระถินออสเตรเลียบนพื้นที่ดินเค็มจัดทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรากฏว่าพื้นที่ที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้นั้นก็กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้งจนได้รับการยอมรับจากเกษตรกรในพื้นที่  ตัวอย่างเช่น นายสุข ภูมิโคกรักษ์ อายุ 64 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ซึ่งแต่เดิมได้ทุ่มเงินปลูกมะพร้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงสุกร บนพื้นที่ 40 ไร่ แต่ต้องประสบปัญหาดินเค็มทำให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร จนกระทั่งกรมพัฒนาที่ดินเข้ามาทำกิจกรรมส่งเสริมปลูกต้นกระถินออสเตรเลียและหญ้าดิกซีบนพื้นที่ดินเค็มจัด ทำให้คราบเกลือบนพื้นดินลดลงสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อีกครั้ง นายสุขจึงได้ตัดสินใจปลูกกระถินออสเตรเลียและหญ้าดิกซีมาตั้งแต่ปี 2545 ปัจจุบันสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของตนสำหรับการเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงสุกรและเลี้ยงวัว ทั้งยังนำส่วนต่างๆ ของกระถิน เช่น ยอด ใบและเมล็ดมาให้สัตว์กิน ลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วย

ที่มาจาก facebook HondaGreenSchool
---Advertisement---