ต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดฝูงตั๊กแตนระบาดอย่างหนักในพื้นที่บ้านเขาผึ้ง ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี สร้างความเสียหายในแปลงปลูกอ้อย 1,600 ไร่...ชาวบ้านคิดว่าเป็นตั๊กแตนปาทังก้า
“การระบาดฝูงตั๊กแตนเกิดขึ้นมานาน สองสามปีแล้วแต่ไม่มาก เพราะถูกชาวบ้านจับมาทอดกินเป็นอาหาร การระบาดเลยไม่เป็นวงกว้างมาก แต่เพราะแล้งที่ผ่านมา สภาพอากาศที่ร้อนขึ้น กระตุ้นให้ตั๊กแตนวางไข่อยู่ใต้ดินเป็นจำนวนมาก และเมื่อฝนตกลงมา จึงฟักเป็นตัวอ่อนบินออกหาอาหาร
เดิมระบาดเฉพาะในนาข้าว แต่ปีนี้พื้นที่นาหลายแห่งมีการเว้นช่วงเพาะปลูก ฝูงตั๊กแตนจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากนาข้าว มารุมทึ้งกัดกินใบอ้อยแทน ทำให้การเจริญเติบโตชะงัก ยืนต้นตายในที่สุด หากปล่อยไว้ แนวโน้มเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง เพราะระยะเวลา 24 ชั่วโมง ฝูงตั๊กแตนสามารถกัดกินใบอ้อยได้ถึง 70-100 ไร่”
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร บอกว่า หลังชุดทีมเฉพาะกิจของกรมฯเข้าไปตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างตั๊กแตนไปพิสูจน์ ตั๊กแตนที่ระบาดในครั้งนี้ ไม่ใช่ปาทังก้า แต่เป็นตั๊กแตนข้าว ที่จะเริ่มออกหากินในช่วง ก.ค.-ก.ย. เติบโตตัวเต็มวัยจับคู่และวางไข่ในช่วง ต.ค.-มี.ค. ใต้ผิวดินลึก 3-5 ซม. ครั้งละ 100-150 ฟอง...เป็นพันธุ์ที่ชอบกินใบข้าวมากที่สุด รองลงมาเป็นอ้อย, ข้าวโพด, ฝ้าย, ถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, หญ้าคา, แฝก, ไผ่, มันสำปะหลัง, ใบมะพร้าว, สับปะรด และตะไคร้
การกำจัดโดยใช้สารเคมีฉีดพ่นไม่เหมาะ เพราะตั๊กแตนบินหนีแล้วจะบินกลับมาอีก และกลับมาครั้งใหม่จะทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น การกำจัดที่ดีสุดคือ...การวางเหยื่อพิษ
ใช้สารฆ่าแมลงคาร์แทป ไฮโรคลอร์ไรด์ 50% จำนวน 20 กรัม, เกลือแกง 30 กรัม, แอมโมเนียไบคาร์บอเนต 30 กรัม, สารจับใบ 5 มล. และน้ำ 1,000 มล. ผสมให้เข้ากัน แล้วนำกระดาษ A4 แบ่งเป็น 4 ส่วน มาชุบสารละลายเหยื่อพิษให้ชุ่มทั้งแผ่น นำกับดักเหยื่อพิษ
เสียบไว้ตามซอกใบอ้อยสลับซ้ายขวา ให้ใกล้ยอดมากที่สุด ระยะห่างทุกๆ 3×3 เมตร เพียงครึ่งชั่วโมง ตั๊กแตนที่สัมผัสกับดักจะร่วงหล่นอยู่ตามกออ้อย...ให้วางกับดักซ้ำทุก 3 วัน จนกว่าจะไม่พบการระบาด
ส่วนการป้องกันการ ระบาดของตั๊กแตนข้าวในฤดูถัดไป อธิบดีกรมวิชา การเกษตร แนะ หากเป็นแปลงอ้อยใหม่ ก่อนปลูกให้ทำการไถพรวนหลายๆครั้ง เพื่อกำจัดไข่ ตัวอ่อน จากนั้นโรยเชื้อราเมตาไรเซียม หรือบิวเวอร์เรีย บนท่อนพันธุ์พร้อมปลูก
ส่วนอ้อยตอ ให้ไถเปิดร่องอ้อยโรยเชื้อราเมตาไรเซียม หรือบิวเวอร์เรีย แล้วกลบดิน หรือใช้ร่วมกับเครื่องผ่าตออ้อย วิธีนี้ช่วยกำจัดไข่ ตัวอ่อนที่อยู่ใต้ดิน โดยไม่เป็นอันตรายกับสัตว์ชนิดอื่น.
เพ็ญพิชญา เตียว