วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า
การเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นอาชีพ จึงน่าจะมีลู่ทางแจ่มใสมาก เพราะจากข้อมูลการสำรวจพบว่ามีการตั้งฟาร์มเพาะเห็ดกันน้อย ฟาร์มเห็ดในเมืองไทยยังมีการเพาะในจังหวัดใหญ่ๆ อยู่เพียงไม่กี่ฟาร์มเท่านั้นค่ะ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่รู้จักเห็ดและนิยมรับประทานกันดีอยู่แล้ว ดังนั้นแนวโน้มที่จะขยายผลผลิตในด้านการเพาะเห็ดจึงทำได้อีกมาก นอกจากนั้นแล้ววิธีการเพาะเห็ดก็ทำง่าย ใช้เงินลงทุนไม่มาก ดังนั้นทุกคนจึงมีโอกาสและมีความสามารถที่จะเพาะเห็ดขายได้ ขอเพียงแต่ให้มีความตั้งใจ มานะ อดทน ก็จะประสบความสำเร็จและมีรายได้สูง

วิธีการเพาะเห็ดนางฟ้า
วัสดุอุปกรณ์ในการเพาะเห็ดนางฟ้า
-วัสดุเพาะ เช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา อาหารเสริม
-แม่เชื้อเห็ดชนิดที่ต้องการ
-ถุงพลาสติกทนร้อนขนาด 6 3/4 x 12 1/2 หรือ 8x12 นิ้ว
-คอขวดพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 1/2 นิ้ว
-สำลี ยางรัด
-ถังนึ่งไม่อัดความดัน หรือหม้อนึ่งความดัน
-โรงเรือนหรือที่บ่มเส้นใย

การเตรียมวัสดุเพาะจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา
ส่วนมากจะใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพารา หรือขี้เลื่อยไม้เบญจพรรณ หรือใช้ฟางข้าวก็ได้ ตามฟาร์มเห็ดทั่วไปแล้วเพื่อความสะดวกในการหมักและผสมวัสดุจึงนิยมใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ซึ่งเป็นขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อนและมีสารอาหารที่มีคุณค่าในการเพาะเห็ดมาก

อัตราส่วนในการผสมวัสดุอื่นๆ
ขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม

รำละเอียด 6 กิโลกรัม

ปูนขาว 1 กิโลกรัม

ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม

ยิปซัม 0.2 กิโลกรัม

น้ำสะอาด 60-70 %

สูตรที่ 2

ขี้เลื่อยไม้ยางพาราแห้ง 100 กิโลกรัม

รำละเอียด 5 กิโลกรัม

ยิปซัม 0.2 กิโลกรัม

ปูนขาว 1 กิโลกรัม

ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม

ปรับความชื้นของวัสดุเพาะประมาณ 60-65 %

วัสดุทั้งหมดนี้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมได้เมื่อชั่งหรือตวงวัสดุทั้งหมดแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน และหมั่นตรวจดูความชื้นบ่อยๆ เพื่อไม่ให้วัสดุเปียกแฉะจนเกินไป ซึ่งจะทำให้มีผลในการทำให้เชื้อเห็ดไม่เดิน

วิธีการเตรียมวัสดุเพาะ
นำส่วนผสมดังกล่าวข้างต้น ผสมให้เข้ากันด้วยมือหรือเครื่องผสมแล้วปรับความชื้น 60-65 % โดยเติมน้ำพอประมาณ ใช้มือกำขี้เลื่อยบีบให้แน่น ถ้ามีน้ำซึมที่ง่ามมือแสดงว่าเปียกเกินไป (ให้เติมขี้เลื่อยแห้งเพิ่ม) ถ้าไม่มีน้ำซึมให้แบมือออก ขี้เลื่อยจะรวมกันเป็นก้อนแล้วแตกออก 2-3 ส่วน ถือว่าใช้ได้แต่ถ้าแบมือแล้วขี้เลื่อยไม่รวมตัวเป็นก้อน แสดงว่าแห้งไป ให้เติมน้ำเล็กน้อย

>บรรจุขี้เลื่อยใส่ถุงพลาสติกทนร้อน น้ำหนัก 8-10 ขีด

>กระแทกกับพื้นพอประมาณ และทุบให้แน่นพอประมาณ 2 ใน 3 ของถุง หรือใช้เครื่องอัดก้อนเห็ด ใส่คอขวด ปิดฝาด้วยฝาจุกแบบประหยัด

>นำไปนึ่งฆ่าเชื้อที่ 100 องศาเซลเซียส 3 ชั่วโมง แล้วนำมาพักให้เย็นในที่สะอาด

>การใส่หัวเชื้อ

ลักษณะเชื้อเห็ดที่ดี
จะต้องไม่มีเชื้อราอื่นๆ เจือปน เช่น ราดำ ราเขียว ราส้ม ปนเปื้อน อยู่ในขวดเชื้อนั้น เพราะจะทำให้ถุงเพาะเชื้อเห็ดติดโรคราอื่นได้ โดยสังเกตเส้นใยของเชื้อเห็ดจะต้องมีเส้นใย สีขาวบริสุทธิ์และดินเต็มขวด

หัวเชื้อควรเลือกหัวเชื้อที่เจริญเต็มเมล็ดธัญพืชใหม่ๆเพราะเชื้อในระยะนี้กำลังแข็งแรงและเจริญเติบโตรวดเร็ว

สถานที่เขี่ยเชื้อเห็ด ควรเขี่ยในห้องที่สะอาดและสามารถป้องกันลมได้เพื่อช่วยลดเชื้อปลอมปน ทำให้เปอร์เซ็นต์ของก้อนเชื้อที่เสียต่ำลง

ในการเขี่ยเชื้อเห็ด ควรใช้ลวดแข็งๆ เผาไฟให้ร้อน ในถึงก้อนเชื้อประมาณ 15-20 เมล็ดแล้วปิดด้วยจุกสำลี เพื่อฆ่าเชื้อ แล้วกวนตีเมล็ดข้าวฟ่างให้ร่วน เพื่อสะดวกในการเทเมล็ดข้าวฟ่างลงในถึงก้อนเชื้อ

>ใส่หัวเชื้อเห็ดที่เลี้ยงบนเมล็ดข้าวฟ่างลงและปิดจุกไว้ตามเดิม

>การทำให้เกิดดอกดูแลรักษาเห็ดนางฟ้า

ก่อนการเปิดดอกควรนำก้อนเชื้อเห็ดมาวางไว้ประมาณ 3-4 วัน เห็ดนางฟ้าจะเปิดถุง โดยเอาจุกสำลีออก นำก้อนไปเรียงซ้อนกัน จะใช้ชั้นไม่ไผ่ตัว A หรือชั้นแขวนพลาสติกก็ได้ รดน้ำ รักษาความชื้นให้มากในโรงเรือนให้มากกว่า 70 % วันละ 2-6ครั้ง ขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศ โดยสเปรย์น้ำเป็นฝอย ระวังอย่ารดน้ำเข้าในถุง เพราะถุงจะเน่าและเสียเร็ว หลังจากบ่มเชื้อครบ

30-35 วัน นำก้อนเชื้อเข้าสู่โรงเรือนเปิดดอก โดยแกะกระดาษเขี่ยข้าวฟ่างและสำลีออกให้หมด ทำความสะอาดพื้นโรงเรือนรดน้ำให้ชุ่ม วันละ 3 เวลา คือ เช้า เที่ยง เย็น เห็ดจะออกดอก ได้ดี ตัดแต่งตีนเห็ดก่อนนำไปจำหน่ายให้แม่ค้าในชุมชน


ที่มา :  teetatlife.com
         : learners.in.th
---Advertisement---