การเลี้ยงแมงดานา
เมื่อพูดถึงแมงดานา ทุกคนก็คงจะนึกถึงน้ำพริกแมงดาและก็คงจะเคยกินน้ำพริกแมงดากันมาบ้างแล้ว ปัจจุบันน้ำพริกแมงดาได้กลายเป็นสินค้าด้านอาหารที่ทำเป็นอุตสาหกรรมไปแล้ว โดยมีโรงงานผลิตน้ำพริกแมงดาบรรจุขวดออกจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในท้องตลาด และทำให้มีผู้บริโภคกันมากขึ้น เนื่องจากสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน ๆ และพกพาติดตัวไปรับประทานในการเดินทางได้สะดวกอีกด้วย แมงดาเป็นวัตถุดิบที่ค่อนข้างจะหายาก การที่จะจับแมงดาที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะว่าแมงดาจะออกมาให้จับเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น ส่วนฤดูแล้งก็จะหลบหนีไปจำศีลตามโพรงไม้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจอาชีพใหม่ ๆ ที่จะเลี้ยงแมงดาเพื่อการจำหน่ายเสริมรายได้ให้กับครอบครัว หรืออาจจะทำฟาร์มเลี้ยงเป็นอาชีพก็ได้ เพราะการเลี้ยงก็ง่าย ขายก็ได้ราคา
ขั้นตอนการเลี้ยงแมงดา
การเตรียมสถานที่
1. เลือกทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำจืด เช่น ท้องนา บึง หรือหนองน้ำตื้น ๆ และเป็นบริเวณที่มีแมลงชุกชุม
2. ขุดเป็นบ่อกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร และลึกประมาณ 35 เซนติเมตร ถ้าเป็นพื้นที่มีน้ำขังตามธรรมชาติอยู่แล้วให้ใช้วิธีกั้นหรือยกเป็นคันดินขึ้นมาก็ได้
3. หลังจากนั้นก็หาต้นพืชเล็ก ๆ เช่น ต้นกก หญ้า หรือต้นโสน มาปลูกภายในบ่อให้ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นที่วางไข่ของแมงดา
4. ใช้ไม่ไผ่หรือไม้เนื้ออ่อนปักเสารอบทั้ง 4 ด้าน และทำคานไว้ด้านบน เป็นลักษณะโรงเรือน และมุงด้วยหญ้าคาเพื่อใช้บังแดด
5. ใช้ตาข่ายตาถี่ขนาดที่แมงดาไม่สามารถบินหนีออกไปได้มาขึงไว้โดยรอบทุก ๆ ด้าน รวมทั้งด้านบนด้วย
6. ในโรงเรือนหาโพรงไม้เลื่อยออกเป็นท่อน ๆ นำมาแขวนไว้ประมาณ 4-5 ท่อน เพื่อใช้เป็นที่อาศัยของแมงดา
การปล่อยแมงดาลงบ่อเพาะเลี้ยง
แมงดาที่ใช้สำหรับเป็นพ่อแม่พันธุ์จะต้องมีประมาณ 15-20 คู่ อาจจะจับมาจากธรรมชาติหรือซื้อมาจากตลาดก็ได้ แล้วนำมาปล่อยลงบ่อเพาะเลี้ยง เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ต่อไป
อาหารที่ให้แมงดากิน
มีลูกกบ เขียด กุ้ง ปู ปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ
การวางไข่และการผสมพันธุ์
ฤดูที่แมงดาจะออกแพร่พันธุ์ จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนตุลาคม หรือเข้าหน้าฝน หรือฝนตกพรำ ๆ แมงดาจะวางไข่ตามกอหญ้า หรือต้นไม้ขนาดเล็ก ตัวเมียปล่อยวุ้นออกมายึดไข่กับกิ่งไม้หรือกอหญ้า วางไข่เป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีประมาณ 100-200 ฟอง การวางไข่เหนือผิวน้ำ ประมาณ 3-5 นิ้ว ขึ้นอยู่กับระดับน้ำในแต่ละปี คือ ถ้าปีใดน้ำมากจะไข่ไว้สูง ถ้าปีใดน้ำน้อยจะไข่ไว้ต่ำ เมื่อวางไข่แล้วตัวผู้จะคอยดูแลไข่ จนกว่าตัวอ่อนจะฟักออกจากไข่ และหากินเองได้
การเจริญเติบโตของแมงดาเป็นไปโดยการลอกคราบ แมงดาจะลอกคราบรวมทั้งหมดห้าครั้ง จึงจะเป็นแมลงมีปีกโดยสมบูรณ์ และสามารถบินได้ แมงดาจะเจริญเติบโตเมื่ออายุประมาณ 3 เดือน ขนาดลำตัวจากหัวถึงปลายปีกยาวประมาณ 7 เซนติเมตร และส่วนท้องจะกว้างประมาณ 2.6 เซนติเมตร เป็นขนาดที่ตลาดต้องการและจับขายได้
แมงดาไม่จำเป็นต้องดูและให้ยุ่งยากเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพียงแค่ดูแลเรื่องอาหารของลูกแมงดาให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการก็พอ เนื่องจากลูกแมงดาในระยะแรกค่อนข้างจะกินจุ ส่วนแมงดาที่มีขนาดโตและบินได้แล้วก็จะจับแมงกินเองได้ แต่ในฤดูแล้งแมงดาจะไม่กินอาหาร ดังนั้นการเลี้ยงแมงดาจึงไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากนัก
วีดีโอการการเลี้ยงแมงดานา
ที่มา : khonkaset.com