ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่'ลพบุรี 84-1'
คิดเอง ทำเอง : ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่'ลพบุรี 84-1' ให้ผลผลิตสูง-รสชาติดี-ต้านทานโรค
หากดูข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พบว่าพื้นที่การปลูกถั่วเหลืองในประเทศลดลงอย่างน่าใจหาย จะเห็นได้จากในปี 2536 มีพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านไร่ แต่ในปี 2553 เหลือพื้นที่ปลูกเพียง 8 แสนไร่ ได้ผลผลิต 1.2 ตันเท่านั้น ต้องนำเข้าถั่วเหลืองกว่า 1.8 ล้าน มูลค่า กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากไทยขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์ดี ให้ผลผลิตต่ำ ล่าสุดกรมวิชาการเกษตรสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลือง ได้สายพันธุ์ใหม่ "ลพบุรี 84-1" ให้ผลผลิตสูง รสชาติดี และลดกลิ่นเหม็นเขียวอีกด้วย
นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารจากถั่วเหลืองมีค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่ผ่านมามักพบว่าถั่วเหลืองมีลักษณะที่กลิ่นเหม็นเขียว ที่เกิดจากปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ไลพอกซิจิเนส (lipoxygenase) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเพิ่มโมเลกุลออกซิเจนไปยังกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลพบุรี กรมวิชาการเกษตร จึงมีการวิจัยพัฒนาเพื่อปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองคุณภาพดี
ล่าสุดประสบผลสำเร็จจนได้ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่ คือ "ลพบุรี 84-1" (LOPBURI 84-1) ทางคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร ได้ประกาศเป็น "พันธุ์แนะนำ" ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งถั่วเหลืองพันธุ์ใหม่นี้ เป็นถั่วเหลืองที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับแปรรูปเป็นอาหาร(มนุษย์) ต่างจากพันธุ์ที่ปลูกอยู่เดิมซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมน้ำมันหรืออุตสาหกรรมอาหารสัตว์
ด้าน นายอานนท์ มลิพันธ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลพบุรีกรมวิชาการเกษตร หนึ่งในทีมปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์ลพบุรี 84-1 บอกว่า ถั่วเหลืองพันธุ์ลพบุรี 84-1 เดิมชื่อ "จีซี96026"(GC96026-10) เป็นสายพันธุ์ที่มีกลิ่นเหม็นเขียวน้อย 1 ใน 31 สายพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรได้นำเข้าจากศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักแห่งเอเชีย ที่ไต้หวัน เพื่อประเมินผลผลิตและทดสอบคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับการผลิตน้ำนมถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์อาหารตามความต้องการของผู้บริโภค ให้ผลผลิตต่อไร่สูงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เพื่อช่วยลดปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากต่างประเทศที่มีราคาแพง
จากการประเมินผลผลิตตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยทำการเปรียบเทียบเบื้องต้นและเปรียบเทียบมาตรฐานทั้งในฤดูแล้งและฤดูฝน พร้อมทั้งประเมินคุณสมบัติทางด้านน้ำนมถั่วเหลือง โดยเฉพาะคุณภาพทางเคมีและทางประสาทสัมผัสทั้งรสชาติและกลิ่น และมีการวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการบริษัท แดรี่ พลัส จำกัด ตลอดจนการเปรียบเทียบพันธุ์และปลูกทดสอบในไร่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ลพลพบุรี สุโขทัย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก พบว่า มีลักษณะเด่นของถั่วเหลืองพันธุ์ลพบุรี 84-1 คือ ให้ผลผลิตสูง เฉลี่ย 358 กก./ไร่ สูงกว่าพันธุ์เชียงใหม่ 60 ซึ่งเป็นพันธุ์เปรียบเทียบ คิดเป็นร้อยละ 10
ที่สำคัญยังมีรสชาติดี กลิ่นหอม และกลิ่นเหม็นเขียวน้อย จนเป็นที่ยอมรับของบริษัทผู้ผลิตน้ำนมถั่วเหลืองในระดับอุตสาหกรรม นอกจากนั้นเมล็ดพันธุ์ยังมีความงอกดี มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงและการเก็บรักษาได้นานกว่าพันธุ์เชียงใหม่ 60 ทั้งยังต้านทานต่อโรคใบจุดนูนของถั่วเหลืองได้ จึงแนะนำให้เกษตรปลูกถั่วเหลืองพันธุ์ลพบุรี 84-1ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน อาทิ จ.ลพบุรี และเพชรบูรณ์ และภาคเหนือตอนล่าง เช่น จังหวัดสุโขทัย และพิษณุโลก เป็นต้น ช่วงปีแรกศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลพบุรีได้เร่งผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองลพบุรี 84-1 ได้ 3,000 กก.เพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง หากสนสามารถสอบถามที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลพบุรี จังหวัดลพบุรี โทร.0-3649-9180-1
ที่มา komchadluek.net